ขอแนะนำตัวนะคะ

บทความที่ปรากฎอยู่นี้เป็นบทความที่เราตั้งใจทำขึ้นเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก รีสอร์ท อาหาร ขนม ร้านอาหาร ตลอดจนการทำอาหารและขนม อีกทั้งยังมีบทความที่แนะนำความรู้ทั่วๆไปอยู่ในแต่ละบทความด้วย ลองคลิ๊กหาดูทางด้านขวามือที่เป็นแถบนำทางดูนะคะ จะแบ่งหมวดหมู่ออกเป็น 6 หมวด ไก้แก่หมวดที่พัก โรงแรมฯ หมวดสถานที่ท่องเที่ยว หมวดความรู้ทั่วไป หมวดร้านอาหาร หมวดอาหารและขนม หมวดสอนการทำอาหารและขนมค่ะ

วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รีวิว บ้านหอมเทียน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หอมจริงไม่ได้โม้

       ราชบุรีชื่อนี้มีดีที่โอ่งมังกร ปลาหางนกยูง แหล่งท่องเที่ยวอย่างรีสอร์ทที่สวนผึ้งบรรยากาศสวยๆ อากาศดีสดชื่นๆ แต่วันนี้จะพาไปเที่ยวแหล่งขายของที่ระลึกของ อำเภอสวนผึ้ง ของจังหวัดราชบุรี ที่แค่จุดปุ๊บก็หอมปั๊บ งงละจิ๊จุดอะไรแล้วหอมอะไร นั่นก็ไม่ใช่อะไรมากค่ะ เทียนหอมค่ะมีหลากหลายรูปแบบหลากหลายสีสันให้เราได้เลือกซื้อกลับมาเป็นของที่ระลึก ส่วนทางไปก็ไม่ยากเลยเพียงแค่เราขับรถไปยัง อำเภอสวนผึ้งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พักซึ่งจะอยู่ทางขวามือมองหาไม่ยากมากนัก และจะมีป้ายและแผนที่บอกทางไปตลอดทางด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าบรรยากาศของบ้านหอมเทียมเป็นอย่างไรบ้าง และเทียนที่ว่าหอมมีอะไรที่น่าจะเอามาเป็นของฝากให้กับเพื่อนๆมั่งค่ะ

บรรยากาศเริ่มแรกเข้าไปรู้สึกร่มรื่นมากๆเลย มีกลิ่นของเทียนหอมลอยมาเป็นระยะๆ แต่ละร้านมีเทียนหลายแบบมากมาย อีกทั้งยังมีการสาธิตวิธีการทำเทียนหอมอีก ส่วนบริเวณด้านหน้าก็มีการเป่าแก้วให้เป็นรูปร่างต่างๆ เล่นเอาเพลินเลยค่ะ บรรยากาศก็เย็นสบายไม่ร้อนเลย

ที่เห็นตั้งอยู่ที่ชั้นทั้งหมดนี่เทียนทั้งนั้นนะคะ มีมากมายหลากหลายแบบมากๆ และทุกอันเป็นเทียนหอมและรับประกันว่าจุดติดทุกเล่มค่ะ สำหรับความหอมนั้นก็แล้วแต่คนชอบค่ะแต่ ความหอมของเทียนทำให้ความรู้สึกสบายใจจริงๆ

นอกจากเทียนแล้วยังมีของฝากที่ต้องเอาไปพร้อมกันนั่นคือไม้ขีดไฟก้านยาวค่ะ แต่ปัจจุบันบ้านเรามักจะใช้ไฟเช็คกัน ลองหันมาใช้ไม้ขีดไฟดูบ้างซิคะได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ

นี่เป็นอีกตัวอย่างของเทียนหอมน่ารักๆ นะคะ เฟอร์บี้ พูดไม่ได้ ไม่ต้องใส่ถ่าย แค่จุดไฟก็ใช้ได้ละจ๊ะ เหมือนมากๆเลย ยกให้กับคนคิดเลยจ๊ะ มีมากมายหลากหลายสีสันแล้วแต่คนชอบจะหยิบไปเป็นของฝากเด็กๆแถวบ้านสักตัวคงดีใจกันไม่น้อย

ส่วนนี้ ไม่ใช่อมยิ้มนะคะกินไม่ได้นะ เทียนทั้งนั้นค่ะ ทำรูปร่างหน้าตาสีสัน ดูสวยงามมากๆ ตอนแรกก็หลงคิดว่าเป็นอมยิ้มเหมือนกันพอเดินเข้ามาดูใกล้ๆถึงบางอ้อเลย เทียนหอมชัดๆนี่นา

และยังมีทำเป็นรูปและลวดลายการ์ตูนสีสันสดใส ถูกใจเด็กๆมากๆ หากจัดไปเป็นของฝากก็เก๋ไก๋เลยจ้า เพราะว่าไม่ซ้ำเพื่อนคนไหนแน่นอน แถมยังสามารถใช้ประโยชน์จากเจ้าเทียนหอมนี้ได้อีก

สุดท้ายกับชุดเกลือ-พริกไทย ให้รู้ว่าที่นี่ สวนผึ้งนะจ๊ะ ก็ผึ้งป๊ะล่ะ อิอิอิ จะหยิบเอาไปเป็นของฝากของที่ระลึกสักตัว สองตัวก็ดีนะคะ

       เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับแหล่งของฝากน่ารักๆ และมีประโยชนืที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี หากได้แวะหรือผ่านไปทางราชบุรีแล้วอย่าลืมเลยเข้าไปหาเอามาเป็นของที่ระลึกและของฝากติดไม้ติดมือกันสักอันนะคะ ขอบอกว่าแค่เดินดูความน่ารักของเทียนแต่ละเล่มแล้วก็เพลิดเพลินที่สุด อีกทั้งยังมีการสาธิตการทำเทียนหอมให้เราได้เรียนรู้กันด้วยค่ะ ขอให้สนุกกับการจุดเทียนนะคะ บั๊พบาย

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รีวิว ตลาดโต้รุ่งหัวหิน มีดีที่ของขาย

       วันนี้ได้ล่องไปทางภาคตะวันตกของประเทศไทย หลังจากพาน้องหมาไปนอนพักที่ โรงแรม IBIS หัวหินแล้ว ก็ได้มีโอกาสออกไปตะลอนทัวร์ที่หัวหินก็มาเจอแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เลยเพลินวานมาหน่อยนึง ก็เป็นตลาดโต้รุ่ง อยู่ใจกลางเมืองหัวหินเป็นตลาดโต้รุ่งที่กว้างและยาวมากๆ แถมยังมีของกินและของชิกๆเก๋ๆ ของฝากมากมาย ทั้งที่น่ารักและน่ากลัว แต่ว่าระหว่างเดินเที่ยวสังเกตุได้เลยว่าเป็นตลาดโต้รุ่งที่มีของกินประเภทอาหารทะเลที่เห็นแล้วต้องร้องว่า โอ้โหแน่นอน ของกินมีหลากหลายและหลายร้านมาก ส่วนร้านอาหารต่างๆ ไม่ค่อยจะเห็นคนไทยมานั่งทานกันสักเท่าไรมองไปทางไหนก็จะเจอแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เมืองหัวหินมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเยอะมากๆเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่า ยังไงลองตามมาดูภาพบรรยากาศภายในตลาดโต้รุ่งกันนะคะ ขอบอกว่างานนี้เจอ เซเล็บคนดังของตลาดโต้รุ่งที่นี่ด้วยค่ะ

แค่ย่างเท้าเดินมาหน้าตลาดก็เจอเซเล็บคนดังทันทีเลยค่ะ ของหมาผ้าพันคอสีชมภู (ตัวใหญ่มากๆ) แต่ดูเป็นน้องหมาใจดีสุดๆ และเป็นดาราหน้ากล้องที่ไม่ถือตัวเอาซะเลยแถมยังรักเด็กมากๆด้วยค่ะ

ยืนมองอยู่ห่างๆ สักพักถึงได้รู้ว่าเซเล็บตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า "แรมโบ้" ชื่อน่ากลัวสมตัวมากแต่นิสัยน่ารักแบบสุดๆ ใครอยากลองสัมผัสหรือถ่ายภาพร่วมกันกับเจ้าแรมโบ้ก็ต้องมาที่นี่ที่เดียวค่ะตลาดโต้รุ่งหัวหินเท้านั้น เจ้าแรมโบ้จะยืนต้อนรับอยู่หน้าตลาดเลยค่ะ

ร้านอาหารที่นี่เยอะมากๆค่ะ แต่ที่มีส่วนมากจะเป็นอาหารประเภทอาหารทะเล เมนูตั้งอยู่หน้าร้านให้ได้ลองพิจารณากันได้ก่อนว่าจะเลือกรับประทานอะไรดี ภายในร้านส่วนมากจะเป็นชาวต่างประเทศ แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่บ้างนะคะ

นี่ไงคะที่เราบอกไว้ว่าเดินมาเห็นก็ต้องร้องว่าโอ้โห กุ้ง กั๊ง อาหารทะเลที่โชว์กันจะๆ ตัวใหญ่มากๆ หากเทียบกับกิโลที่วางข้างๆแล้ว ไม่แน่ใจว่าถ้าเอามาชั่งพร้อมกันสักสองตัวจะวางบนกิโลได้หมดหรือเปล่า เมนูหน้าร้านหลากหลายมากๆค่ะ มีทั้งอาหารทะเลที่เป็นแบบอาหารไทยและอาหารยุโรป แบบว่าสามารถเลือกรับประทานได้แบบนานาชาติค่ะ

เดินมาอีกหน่อยต้องตกใจกับเจ้ามือปลอมและของเล่นแปลกๆมากมาย ร้านนี้ขายของเล่นและของที่ระลึกแปลกๆค่ะ หากใครจะซื้อมาเล่นต้องคิดดีๆค่ะ เหมือนของจริงมากน่ากลัวเลยทีเดียวค่ะ แต่ของเล่นน่ารักๆ ก็ยังมีนะคะ

บรรยากาศช่วงหัวค่ำตลาดโต้รุ่งก็เริ่มมีคนมาเดินเที่ยวเดินช๊อปกันอย่างหนาแน่นแล้วค่ะ และพอยิ่งตกดึกคนก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นอีกค่ะ


       เป็นอย่างไรบ้างคะตลาดโต้รุ่งหัวหินหากได้มาแวะอย่าลืมลองมาเดินเล่นหรือลองรับประทานอาหารที่นี่ดูสักครั้งนะคะ แต่แค่เดินดูของเราก็อิ่มละของน่าช๊อปเยอะมากๆ ฟินที่สุดเลย เดินเพลินจนลืมหิวไปเลยค่ะ อิอิอิ

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รีวิว สวนนกชัยนาท มีดีกว่าที่คุณคิด

       ถ้ากล่าวถึงจังหวัดชัยนาท น้อยคนนักจะปฏิเสธได้ว่าคิดถึงสวนนกชัยนาท หรือหุ่นฟางนกชัยนาท รวมถึงส้มโอพันธุ์ขาวแตงกวาที่หวานอร่อย แต่วันนี้จะลองเข้าไปที่จังหวัดชัยนาทดูค่ะแล้วจุดหมายปลายทางของเราก็คือสวนนกชัยนาท จุดเด่นของที่นี่คือมีนกหลากหล่ยสายพันธุ์ให้ได้เที่ยวชมกันแล้วยังมีกรงนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย ที่ข้างในมีการปล่อยให้นกอยู่กันอย่างอิสระ แต่ปัจจุบันที่ต้องสะดุดตาก็คือมีสถานแสดงไข่นกชนิดต่างๆมากมายถ้าลองได้เข้าไปสัมผัสจะรู้ว่าเรามีความรู้เกี่ยวกับเจ้าพวกนกนานาชนิด ต่างสายพันธุ์กันแบบว่าน้อยมากจนแทยจะไม่รู้จักเกือบจะทุกตัวที่มีการจัดแสดงโชว์อยู่ก็เป็นได้ ส่วนการมาเที่ยวที่สวนนกชัยนาทนั้นขอบอกคำเดียวเลยว่าไม่ยากเพียงแค่เราขับรถตรงมาจากแยกสายเอเซียทางเข้าจังหวัดชัยนาท แล้วขับรถตรงมาตลอดทางก็จะพบกับสวนนกชัยนาทเด่นอยู่ชิดกับริมถนน ซึ่งปัจจุบันนี้ขนาดที่จอดรถเพื่อเข้าไปเที่ยวชมยังหาที่จอดยากเนื่องจากภายในมีการปรับปรุงใหม่ดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ประกอบกับมีสวนน้ำที่คล้ายๆกับที่กรุงเทพจิงทำให้สวนนกกลับมาได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้ง ส่วนในเรื่องของสวนน้ำนั้นจะขอมารีวิวให้ดูในภายหลังนะคะ งั้นเรามาดูความเปลี่ยนแปลงภายในสวนนกชัยนาทกันก่อนเลยว่ามีอะไรบ้างค่ะ

พอเดินเข้ามาเงยหน้าก็เจอกับป้ายสวนนกชัยนาทก่อนเลยค่ะ แต่ต้องระวังหน่อยนะคะหากเดินข้างๆทางจะมีสายไฟห้อยๆอยู๋เยอะเหมือนกัน ฝากเตือนผู้ปกครองที่มีเด็กเล็กไปด้วยก็ดูแลกันดีๆค่ะ

ประตูทางเข้า ไม่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเลยยังจำบรรยากาศสมัยมาเที่ยวตั้งแต่เด็กๆได้อยู่เลยค่ะ จริงๆไม่ได้มานานแล้วเคยมาดูตั้งแต่เค้ายังมีโชว์บ่องูเห่าด้วยล่ะ จำได้ว่าช่วงนั้นคนเยอะมากโดยเฉพาะการแสดงโชว์ในบ่องู

บัตรผ่านประตูสีสันสวยงาม ไม่บอกก็รู้ว่าข้างในนั้นจะมีอะไรบ้าง ทั้งสวนนกและสวนน้ำอยู่ด้วยกัน ราคาเข้าชมก็ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท แต่จากการสอบถามจะสังเกตได้ว่าถ้าเป็นคนชัยนาทแค่แสดงบัตรประจำตัวประชาชนก็สามารถเข้าชมฟรีค่ะ

เดินมาจากประตูหน้าไม่กี่ร้อยเมตรก็ต้องมาสะดุดกับเจ้านกอินทรีตัวใหญ่ในสระน้ำ เค้าบอกว่าเป็นหุ่นฟางนกนะคะ
ที่เห็นมาใหม่ก็คือพิพิธพันธ์ไข่นกที่ไม่ต้องอ่านป้ายก็รู้เลยจ้าว่าข้างในต้องมีไข่นกอยู่อย่างแน่นอน มีการตกแต่ภายนอกด้วยรูปภาพของนกนาๆชนิด แต่ที่ชอบที่สุดคือข้างในติดแอร์ด้วยค่ะ ถ้าจะเปรียบเทียบว่าสุพรรณมีบึงฉวาก ชัยนาทก็มีสวนนกค่ะ

อันนี้เป็นไข่เพนท์ลายที่นำเอาไข่นกหลากหลายชนิดมาลงลวดลายและสีสันเป็นรูปต่างๆอย่างสวยงาม อย่างกับว่าไม่ใช่ไข่ที่เคยเห็นกันเลยมันเปลี่ยนไปเป็นศิลปะที่สวยงามเกินกว่าจะบอกได้ว่าอดีตวัตถุพวกนี้เคยเป็นไข่นกมากก่อนค่ะ

ส่วนนี้เป็นไข่ที่เค้านำมาแกะสลักลวดลายของบอกว่าของจริงสวยมากๆเลย พอเอามาประดับด้วยเชิงเทียนต่างๆและใส่แสงไฟอ่อนๆลงไปด้วยแล้วดูราวกับว่าไข่ช่างมีมูลค่าเหลือเกิน

และไข่วิจิตร ซึ่งไม่รู้แน่ชัดว่าเค้าประดิษฐ์ขึ้นมาได้อย่างไรสวบและลงตัวมากกับเปลือกไข่แต่ละฟอง ลองดูซิคะจำเค้าโครงเดิมของไข่นกไม่ได้เลย มีการติดลวดลายเพิ่มเติมให้ไข่ยิ่งดูสวยขึ้นด้วย

ภายในมีไข่นกหลากหลายชนิดมากๆทั้งนกไทย นกเทศ หากใครที่ว่าแน่ๆลองมาดูได้ค่ะว่าเรารู้จักนกและไข่พวกนี้สักกี่สายพันธุ์ไข่บางใบเหมือนกันมากๆแทบจะดูไม่ออกแต่กลับกลายเป็นไข่ของนกที่ต่างกันสุดขั้วไปเลยก็มีค่ะ

เทียบกันให้เห็นจะจะ แบบว่าไข่นกที่ใบใหญ่ที่สุด และไข่นกที่เล็กที่สุดในโลก เมื่อเปรียบเทียบกับไข่นกที่มีมาตราฐานธรรมดาแล้วต่างกันชนิดที่เรยกได้ว่าพ่อกับลูกเลย ใบ้ให้ก็ได้ค่ะที่เล็กที่สุดน่ะของนกฮัม.... อยากรู้ข้อมูลเพิ่มต้องไปเที่ยวและลองมองหาดูนะคะว่าจะเจอไข่ที่ใหญ่และเล็กที่สุดในโลกไหม

แผนผังการจัดสวนนกแนวใหม่จะเห็นได้ว่าทางขวามือจะมีสวนน้ำเพิ่มขั้นด้วยค่ะ ส่วนที่เหลือก็จัดแสดงโชว์พันธุ์นกต่างๆเหมือนเดิม

และก็ไม่พลาดที่จะต้องเดิมมาเที่ยวชมกรงนกใหญ่ที่มีความใหญ่มากที่สุดในเอเซียซึ่งข้างในได้ปล่อยนกหลากหลายสายพันธุ์ให้ดำรงชีวิตอยู่กันอย่างอิสระเพียงแต่มีตาข่ายขนาดยักษ์มากั้นขอบฟ้าไว้เท่านั้นเองกันพวกมันหนีเที่นวอ่ะ

บรรยากาศตอนไปเที่ยวดีมากๆ ไม่ร้อนจนเกินไป หากใครจะดื่มด่ำกับธรรมชาติทางสวนนกชัยนาทก็มีเรือถีบไว้บริการ และหากใครคิดว่าภายในช่างกว้างใหญ่ทางสวนนกก็จัดรถเที่ยวชมซึ่งจะออกเป็นรอบๆด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับสวนนกฉบับปรับปรุงน่าเที่ยวเล่นเป็นที่สุดเลยใช่ไหม หากมีเวลาว่างขอแนะนำให้มาเที่ยวชมสวนนกชัยนาทและอย่าลืมติดผ้าเช็ดตัวมาสักผืนเผื่อจะลองเข้าไปเล่นสวนน้ำก็เชิญค่ะ

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รีวิว ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี จังหวัดสุพรรณบุรี

       วันนี้ได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี เลยได้ลองเข้าไปเดินเที่ยวเล่นในตลาดสามชุก ตลาดร้อยปี ที่คงสภาพทั้งตัวตลาด ตัวอาคารและของขายที่หาซื้อได้ยากในปัจจุบัน ทั้งของกินของใช้ตลอดจนของเล่นและของอื่นๆอีกมากมาย การเดินทางมาก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเพียงแค่ขับรถมาตามทางเข้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรีก็จะมีป้ายบอกทางมาสู่ตลาดสามชุก อายุอานามของตลาดก็ไม่มากไม่น้อย 100 ปีเท่านั้นเอง ตั้งอยู่ที่แม่น้ำท่าจีน อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ถ้ามาจากกรุงเทพแนะนำให้ผ่านมาทางนนทบุรีจะมาง่ายที่สุดแล้วค่อยเข้าสู่สุพรรณบุรี ปัจจุบันตลาดสามชุกไม่ได้ซบเซาลงเหมือนอย่างแต่ก่อนที่พอมีห้างดังๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วคนส่วนมากก็เข้าไปเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันเสียเป็นส่วนใหญ่ รับรองได้ว่าหากใครได้มาเดินและจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศและของขายที่มีมากมาย ดื่มด่ำกับบรรยากาศตลาดขายของแบบโบราณซึ่งยังคงกลิ่นอายของวัฒนธรรมของไทยสมัยเก่าได้อย่างดี รวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่งใจกลางตลาดที่รวมเอาเรื่องราวตั้งแต่สมัย 100 ปี ก่อนตั้งแต่ก่อตั้งตลาดมารวบรวมไว้ มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของตลาดขายของที่สร้างด้วยไม้ที่คู่มากับตลาดดั้งเดิมและตัวอาคารที่เป็นตึกสมัยใหม่ ลงตัวกันอย่างมากซอยแต่ละซอยก็จะมีของขายซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของที่น่าซื้อทั้งนั้น ทั้งของกินของใช้ของฝาก แต่ว่าช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ เดินไปได้ไม่เท่าไรก็ต้องหาน้ำเย็นๆ ดื่มซะแล้ว ใครจะไปเดินเที่ยวก็ต้องเตรียมตัวกันให้พร้อมกับการที่ต้องเจอกับอากาศร้อน ของขายมากมาย และผู้คนที่คับคั่ง ตามมาดูเลยค่ะว่าในตลาดร้อยปีแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

ทางเข้าตลาดสะดุดตากับป้ายที่ว่า ตลาดมีชีวิต พิพิธภัณฑ์มีชีวา อันนี้น่าจะจริง เดินไปสักพักก็เจอไกท์พื้นที่ เค้าจะเข้ามาเชื้อเชิญชวนให้เราไปล่องเรือชมตลาดริมน้ำแต่เราไม่ได้ไปหรอกค่ะ

ของเยอะมากๆ คนก็เยอะมากๆค่ะ บรรยากาศเป็นตลาดไม่โบราณสมัยเก่า เหม่าสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับตลาดแบบสมัยโบราณ แต่ถ้าเป็นคนกรุงติดห้างชอบแอร์แล้วล่ะก็ขอบอกว่าแย่แน่ๆเลย

ของฝากจำพวกขนมก็มีมากมายไม่รู้จะซื้ออะไรกลับมามั่งเลยแต่ที่แน่ๆ เค้าว่ากันว่าถ้ามาถึงสุพรรณบุรี จะต้องซื้อสาลี่สุพรรณไปเป็นของฝาก เพราะว่ามีคนเคยบอกว่าถ้ามถึงสุพรรณบุรีแล้วไม่ซื้อสาลี่สุพรรณบุรีก็จะถือว่ามาไม่ถึงสุพรรณนะคะ 

มีทั้งของที่ทำมือมาขายจากไอเดีย บางชิ้นก็เล่นเอาเราทึ่งเลยว่าทำได้ไงอ่ะ ที่นี่เป็นตลาดค้าขายทั้งแบบที่ตั้งเป็นร้านมีตัวอาคารชัดเจนและยังตั้งเป็นแผง ตลอดจนมีแบบหาบมาทั้งกระจาดก็มีค่ะ

ของใช้ประเภทครัวเรือนก็มีนะคะ นึกถึงสมัยที่เป็นนักเรียนตอนเด็กๆเลย หิ้วปิ่นโตไปโรงเรียน กระติกน้ำรุ่นเก่าๆก็มีนะคะ ถ้าใครยังทันก็ลองมาแวะหาและรำลึกถึงอดีตเก่าๆดูได้ค่ะ

ของเก่าเยอะแยะเลยอ่ะร้านนี้ มีทั้งโปรการ์ด ของฝาก ของสะสมสำหรับนักสะสมของเก่า ไม่น่าที่จะพลาดลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมกันค่ะเผื่จะเจอของที่ถูกใจติดไม้ติดมือกันคนละชิ้น สองชิ้นค่ะ

กุนเชียงปลาน่ากิ๊นน่ากิน ขอบอกว่าถ้าต้องการที่จะเดินหาซื้อของที่เป็นจำพวกของกินของฝากล่ะก็ที่นี่มีให้เลือกเยอะแยะมากมายหลากหลายอย่าง และหลายร้าน ซึ่งที่ไม่ได้เก็บภาพมาฝากแต่ก็ขึ้นชื่อและมีคนเข้าไปมุงซื้ออย่างมากได้แก่ บ๊ะจ่าง ข้าวห่อใบบัว เป็ดย่าง ขนมไทย ท้องม้วนโบราณ เป็นต้น

ชอบสาวคนนี้อ่ะซุ้มโค๊ก ดูคุณเธอสิ Sexy ไหมคะ เป็นร้านจำหน่ายของฝากและสินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของโค๊ก ตั้งแต่สมัยเก่าจนถึงปัจจุบัน เข้าไปแล้วก็ต้องไม่วายซื้อน้ำอัดลมดื่มกันแน่นอน แต่พอเดินมาที่ซอยนี้ใครๆก็สะดุดตาอีกทั้งยังมีคนเข้ามาถ่ายรูปคู่กับน้องสุดสวยคนนี้ตลอดเวลาค่ะ

อันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ ของเก่าของตลาดสามชุกค่ะ บ้านปู่มาเก็บรวบรวมประวัติความเป็นมาของตลาดสามชุก มีอุปกรณ์เครื่องใช้ ตลอดจนภาพถ่ายสมัยโบราณอยู่มากมาย ตัวอาคารทำด้วยไม้แบบอาคารโบราณ ชั้นสองเป็น เหมือนที่พักและที่เก็บของเก่าค่ะ

ลูกชิ้นยักษ์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเป็นอะไรที่เป็นจุดเด่นของตลาดสามชุกที่ไม่ว่าใครพอเดินมาที่ซอยแรกนี้ พอเห็นร้านลูกชิ้นกับลูกชิ้นลูกใหญ่เบ้อเริ่มก็ต้องหยุดดูและเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกรวมถึงยังต้องลองแวะชิมและซื้อกลับมาเป็นของฝาก ชามนี้ลองสั่งมาทานขอบอกว่าลูกชิ้นใหญ่มากๆ อันนี้ให้เค้าตัดแบ่งแล้วนะคะ ใครอยากลองลูกใหญ่กว่านี้ต้องไปลองหามาทานกันเอง ในตู้ก็ของจริงใหญ่มากๆประมาณว่ากินกันทั้งปีก็ว่าได้

พอจิ้มกับน้ำจิ้มรสเผ็ดก็อร่อยมากๆ เลยค่ะแต่ขอบอกว่าชามนี้นั่งทานไปสักพักต้องขอให้พี่เจ้าของร้านใส่ถุงกลับบ้านค่ะทานไม่หมด เยอะและใหญ่มาก รสชาติของลูกชิ้นจะมีความกรุบกรอบแต่เพียงว่าข้างในลูกชิ้นที่เรากินเหมือนกับว่าข้างในเค้าใส่พริกไทยด้วย กรอบนุ่มเด้ง หวานมัน เผ็ดร้อนนิ๊ดๆกับรสชาติของของน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้านค่ะ

มีหลายร้านมาเลยลูกชิ้นยักษ์มีแบบใส่ถุงพร้อมน้ำจิ้มให้เราเอากลับไปทานบ้านด้วยจ๊ะ แต่เราไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นคนคิดค้นลูกชิ้นยักษ์แบบนี้แต่เป็นอะไรที่ได้รับความนิยมมากๆ เพราะมันแปลกจริงๆค่ะ สำหรับร้านนี้เค้าบอกว่าเป็นร้านต้นตำรับเจ้าแรกค่ะ เราอยากจะลองให้ครบทุกร้านว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้างแต่ก็คงต้องขอยกธงขาวเจอไปเจ้าเดียวก็อิ่มไปยันพรุ่งนี้เลยจ้า

ตามด้วยไอติมมะพร้าวสดทานแล้วสดชื่น ความมันส์ของมะพร้าวกับความหวานหอมของไอติมเข้ากันอย่างมากและเมื่อใส่ถั่วคั่วเข้าไปยิ่งทะให้ความอร่อยของไอติมมีมากยิ่งขึ้น สรุปว่าพอได้ลองชิมแล้วจะชื่นใจจริงๆ หายร้อนเลยค่ะ

       หากมีโอกาสได้ไปสุพรรณบุรีอย่าลืมแวะเที่ยวและหาซื้อของฝากที่ตลาดสามชุก ตลาดร้อยปีของสุพรรณบุรีนะคะ ไปไม่ยากเลยรับลองว่าคุ้มค่ากับการแวะเข้ามาแน่นอนค่ะ วันนี้ขอตัวลาไปก่อนแล้วค่ะ ^^"

รีวิว แดนส์กระจาย สไตร์ครูก้อย วัดสว่างวงศ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

       ว่าด้วยการออกกำลังกายวันนี้แอบไปเก็บภาพถ่ายของคุณภรรยา ที่ไปแดนส์แบบแอโรบิคที่ลานออกกำลังกายวัดสว่างวงศ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสววค์มาครับ ขอบอกว่าท่าแดนส์แต่ละท่าครูก้อยของโรงเรียนจงซันฯ นำเต้นนี่ เรียกเหงื่อได้เยอะทีเดียว สำหรับกิจกรรมการเข้าจังหวะตนตรีหรือแอโรบิคแดนส์นี่เป็นความร่วมมือ 2 ส่วนของเทศบาลเมืองตาคลีที่ให้งบสนับสนุนในการจัดให้มีลานกีฬาออกกำลังกายให้กับผู้ที่สนใจในอำเภอตาคลี ร่วมกับโรงเรียนจงซันเซี๊ยะเซี้ยว โรงเรียนสอนภาษาจีนที่ขึ้นชื่อของชาวอำเภอตาคลี โดยการเต้นแอโรบิคแดนส์ครูก้อยผู้นำเต้นจะเป็นคนสอนท่าเต้นให้ก่อนที่จะทำตามประกอบกับการคัดสรรเพลงในจังหวะต่างๆ ตามช่วงการเต้นซึ่งจากการที่ผมนั่งสังเกตุการณ์อยู่จะพอเข้าใจได้ว่าการออกกำลังกายของการเต้นแอโรบิคแดนส์ของลานออกกำลังกายวัดสว่างวงษ์ จะมีด้วยกัน 3 ช่วง ช่วงวอร์มกล้ามเนื้อก่อนการเต้น ช่วงนี้จะเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อท่าที่เต้นจะเป็นแบบช้าๆตามเพลงที่ฟังดูสบายๆ ช่วงที่ 2 เต้นตามจังหวะกับเพลงจังหวะสนุกเร้าใจท่าเต้นไม่ต้องบอกมันส์มากๆ หากสูงอายุหน่อยก็คงต้องทำตามแค่พอไหล และสุดท้ายเป็นการเต้นแบบผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กับจังหวะเพลงที่ดูสบายใจเป็นที่สุดกับท่าที่ผ่อนคลาย เรามาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้างแต่ขอบอกว่าคนมาเต้นเยอะมากๆเลยครับ ซึ่งกิจกรรมการเต้นแอโรบิคแดนส์นั้นจะมีแทบทุกวันถ้ามาเต้นได้ตลอดจะได้ประโยชน์อย่างมากเนื่องจากการเต้นแต่ละรอบใช้เวลาอย่างน้อยๆเกือบๆ ชั่วโมง

       หลักการออกกำลังกายที่ถูกต้องคือ การออกกำลังกาย ต้องเป็นการออกแรงหรือทำกิจกรรมในการเคลื่อนไหวออกแรงที่ไม่ใช่งานประจำที่ต้องทำอยู่ทุกวัน อย่างน้อย 30 นาทีติดต่อกัน โดยให้เกิดการใช้พลังงาน และที่ถูกต้องที่สุดคือ ต้องออกกำลังอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันเป็นอย่างต่ำ

แต่ละคนดูจริงจัง เอาจริง เข้มแข็ง กับการเต้นครั้งนี้มากๆ ประมาณว่าบรรยากาศคล้ายๆการซ้อมแอโรบิคแดนส์เพื่อจะไปชิงแช้มป์กับทีมอื่นก็ไม่วาย เรียกง่ายๆเล่นเอาเหงื่อท่วมเลยล่ะถือว่าประสบผลสำเร็จเพราะว่าถ้าออกกำลังกายแต่ไม่เหนื่อยหรือมีเหงื่อออกก็ไม่ได้ประโยชน์ รวมถึงคุณภรรยาของผมด้วย อิอิอิ

ท่าทุกๆท่าเต้นไม่ว่ารุ่นไหนก็สามารถเต้นตามได้หมดเลยท่าเดิมๆ อาจมีเปลี่ยนแปลงบ้างบางท่าซึ่งได้ออกแรงขยับเขยื้อนทุกสัดส่วน ซึ่งอาจจะทันบ้างไม่ทันบ้าง ช้าบ้าง เร็วบ้าง ก็แล้วแต่รุ่นและความเหมาะสม แต่ถึงอย่างไรก็เต้นเก่งกันทุกๆคนเลย

ฉากหลังสวยงามกับแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า นั่งดูเพลิน ๆ ทั้งมีเพลงมันส์ๆ ประกอบกับนั่งดู ท่าเต้นที่เร้าใจ ความสนุกสนานจากเสียงหัวเราะผู้เข้ามาร่วมออกกำลังกาย ทำให้ผู้เข้ามาร่วมกิจกรรมเต้นแอโรบิคครั้งนี้ได้ทั้งออกแรงและความสนุกสนานไปพร้อมๆกันครับ

โฉมหน้าครูก้อย อาจารย์นำแดนส์ของคุณภรรยาผมเอง ขอบอกว่าครูก้อยเต้นได้อย่างชนิดที่ว่าไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยกันเลยทีเดียว

       หากใครที่รักในเสียงเพลงและการออกกำลังกายในรูปแบบแอโรบิคแดนส์ เราขอนำเสนอ การออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน ทุกวันยกเว้นวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. - 19.00 น. ณ วัดสว่างวงศ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ คนมาเต้นราวๆ 40-60 คน ขอรับรองว่ามันส์มากๆ ขนาดไปนั่งรอคุณภรรยาผมยังแอบแดนส์ตามเลย 555+ ถ้าสนใจและต้องการสร้างสุขภาพขอเชิญเลยนะครับ สุขภาพสร้างได้เริ่มที่ตัวคุณเอง

รีวิว หุบพญารีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี

       วันนี้เราขอนำเสนอที่พักสไตร์รีสอร์ทที่จังหวัดกาญจนบุรี บรรยากาศติดริมแม่น้ำแคว บรรยากาศเหมือนอยู่ที่กลางป่าเขาอากาศดีมากๆ ขนาดมาในช่วงหน้าร้อนแต่กลับไม่ร้อนอย่างที่คิดเลยค่ะ ห้องน้ำและอ่างอาบน้ำแบบ Open Door ท่ามกลางธรรมชาติขอบอกว่ากลางธรรมชาติจริงขนาดที่ว่าหากเข้าห้องน้ำช่วงกลางวันจะพบเจอกับท้องฟ้าและแสงแดดรำไร หากเข้าห้องน้ำในช่วงกลางคืนจะเจอกับมวลหมู่ดาวและดวงจันทร์ที่สาดส่อง แค่จินตนาการก็เพลิดเพลินไปกับการดื่มด่ำของการพักผ่อนในธรรมชาติแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญหุบพญารีสอร์ทที่เราเข้าพักนั้นจัดให้มีกิจกรรมทางน้ำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติและความชื่อฉ่ำของแม่น้ำแควแบบกึ่ง Advanger ด้วยค่ะซึ่งกิจกรรมที่ว่าเป็นอย่างไรบ้างจะมาเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ ซึ่งหากใครกำลังมองหาที่พักราคาไม่แพงมากนัก บรรยากาศดี สงบเงียบ มีกิจกรรมยามว่างให้ได้ลองท้าทายกันค่ะ รวมถึงมีสนามหญ้าให้วิ่งออกกำลังกายและแป้นบาสพร้อมอุปกรณ์ให้ได้เล่นกัน หากชอบพักผ่อนแนวนี้เราขอแนะนำ หุบพญารีสอร์ท แห่งนี้เลยค่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรบ้างตามมาเลยค่ะ

ที่จอดรถกว้างขวาง มีที่จอดด้านหน้าประมาณฝั่งละ 10 คัน แบ่งเป็นซ้านขวา จำนวน 4 ฝั่งค่ะ เรียกได้ว่าขนาดมาเป็นทัวร์ยกแก๊งก็รองรับกับจำนวนรถที่มาเข้าพักได้ค่ะ ส่วนด้านล่างของที่พักริมน้ำก็มีที่จอดให้อีกนะคะสำหรับใครที่ชอบพักแบบเป็นแพลอยอยู่ในน้ำ 

ทางเข้าสำนักงานสำหรับจองห้องพักร่มรื่นมากๆเลย ถ้าสังเกตุจะมีน้องปอมๆ พนักงานต้องรับคอยวิ่งต้อนแวกอยู่ด้วยค่ะถูกใจกันไปค่ะสำหรับคนรักสุนัข สดชื่นสบายตา สบายใจมากๆ เลย เพราะมองไปที่ไหนก็เจอแต่สีเขียวและร่มไม้ อากาศก็สดชื่นมากๆ

ทางเดินไปห้องพักที่ดูราวกับเข้าไปในสวนป่า ที่นี่มีต้นไม้จำพวกเฟริน และไม้ใบใหญ่เป็นอย่างมาก ขนาดที่ว่าอากาศร้อนๆ แต่วันที่เข้าพักกลับมีฝนตกดบัร้อนได้อย่างมากเลยค่ะ

ห้องพักที่ดูราบเรียบ ไม่มีอะไรหวือหวา ดูเป็นห้องพักที่ทำให้เข้ากับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ แต่ก็ไม่ต้องห่วงนะคะพนักงานบอกว่าทุกห้องมีแอร์แล้วก็น้ำอุ่นด้วยค่ะ ส่วนด้านนอกดูแล้วก็ออกแบบมาอย่างเหมาะสม งั้นเราจะลองเข้าไปสำรวจด้านในว่าเป็นอย่างไรสวยสมคำร่ำลือไหม

ห้องนอนดูไม่หรูหรามากแต่ก็น่านอนพักที่สุด มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น ไวไฟ น้ำอุ่น แอร์ โทรทัศน์ กล่องรับสัญญาณดาวเทียม ตู้เย็น และโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

อ่างล้างหน้าเก๋มากๆเลยค่ะใช้อ่างดินเผามาประยุกต์ เปลี่ยนให้กลายมาเป็นอ่างล้างหน้าโดยวิธีการเจาะและต่อท่อน้ำทิ้งที่ก้นอ่าง ก่ออิฐแดงเป็นฐาน เดินระบบน้ำประปาเพียงเท่านี้ก็กลายเป็นอ่างล้างหน้าแต่ขอบอกว่าเคยเจออ่างล้างหน้าที่สร้างและออกแบบอย่างนี้ที่แรกค่ะ

ส่วนนี่ก็อ่างอาบน้ำค่ะตกแต่งแบบธรรมชาติเลย มีก้อนหินขนาดใหญ่มาเป็นตัวกั้นสำหรับอ่างอาบน้ำ มีก๊อกปรับน้ำอยู่ 2 อย่าง โดยแยกออกเป็นน้ำร้อนและน้ำเย็น ส่วนฝักบัวที่เห็นด้านบนก็เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นปรับระดับน้ำได้ค่ะ เวลานอนแช่น้ำแล้วมองขึ้นไปบนฟ้าสบายสุดๆเลย ด้านข้างตกแต่งด้วยกองหินและต้นไม้ให้อารมณ์แบบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
หลังคาของห้องอาบน้ำจะมีเพียงไม่ท่อนๆมุงเรียงไว้แบบว่า Open Door จริงๆเลย แต่หากดูดีๆ เค้าเอาแอร์ออกไปตั้งไว้บนผนังด้านนอกเพื่อลดเสียงรบกวนเพราะว่าเป็นห้องพักแบบเปิดโล่ง แบบนี้เรียกว่าอาบน้ำท่ามกลางแสงเดือน แสงดาว และแสงจันทร์ค่ะ แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะเพราะว่าด้านหลังเป็นกรงของน้องเต่าขนาดยักษ์ค่ะ

แต่ถ้าใครเบื่อๆ ที่นี่ก็มีเรือนรับรองริมน้ำให้นั่งเล่นด้วยค่ะ นั่งริมน้ำอากาศเย็นสบายริวแม่น้ำแคว สามารถสั่งอาหารจากทางรีสอร์ทมานั่งรับประทานได้ด้วยนะคะ แถมที่นี่แหล่ะค่ะที่ทางรีสอร์ทจัดให้มีกิจกรรมทางน้ำที่กล่าวไว้แต่แรก นั่นคือทางรีสอร์อทจะเตรียมเสื้อชูชีพไว้ให้แขกและจะมีพนักงานขับเรือคอยดูความปลอดภัยของเรา เมื่อเราใส่ชูชีพแล้ว จะมีรถรับส่งของทางรีสอร์ทขับนำพาเราไปปล่อยที่ต้นน้ำโดยให้เราโดดลงน้ำพร้อมๆกันและลอยมาตามกระแสน้ำโดยพนักงานที่ขับเรือจะเป็นผู้กำกับว่าเราจะต้องว่ายไปทางใดที่ต้องหลีกเลี่ยงกระแสน้ำที่ไหลแรง จนกระทั่งเราลอยกลับมาถึงรีสอร์ทเป็นกิจกรรมที่สนุกและวัดใจได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ

ส่วนนี่ก็บ้านพักที่เป็นแบบแพลอยอยู่ริมน้ำได้บรรยากาศดีไปอีกแบบลองเข้าไปดูแล้วข้างในดูสบายๆมองเห็นแม่น้ำและใกล้ชิดแม่น้ำมากๆ แต่เราไม่กล้าพักค่ะกลัวเวียนศีรษะ ดูมันโครงๆไงไม่รู้อ่ะ
สำหรับอาหารเช้าของวันนี้ น่าทานใช่ไหมล่ะ ที่นี่ยังมีข้าวต้มแล้วก็โอวัลติน กับกาแฟให้ด้วยนะจ๊ะ ก็ตามสไตร์อาหารเช้าของที่พักตามโรงแรม

เดินไปเดินมา ลองๆดูนะเราก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีเต่าตัวใหญ่อยู่ด้วยหลายตัวเลย มีไข่ด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะฟักออกมาเป็นตัวได้หรือเปล่า แถมพนักงานยังบอกว่ามีนกยูงด้วยล่ะลองไปเดินหากันดูนะ

เก็บตกกับภาพยามเย็นของที่พักหุบพญารีสอร์ทช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลาลับแม่น้ำแควมาให้ดู บรรยากาศและอากาศช่วงนี้ดีมากๆเลย นั่งทอดอารมณ์หลีกหนีจากเรื่องวุ่นวายมาพักผ่อนชาร์ตไฟให้กับตัวเอง

       เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับที่พักแสนจะอบอุ่น จริงๆมีกิจกรรมทางน้ำให้เราใส่เสื้อชูชีพแล้วก็ล่องตามกระแสน้ำมาโดยจะมีพนักงานคอยขับเรือตามมาข้างๆ น่าสนุกและตื่นเต้นที่สุดเลย หากใครได้ลองมาสัมผัสแล้วจะติดใจกับบรรยากาศแสนจะสดชื่นของ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนจริงๆ >.<